Saturday, June 22, 2013

สัมภาษณ์คุณชูเชื้อ และ คุณผ่องพรรณ สิงหเสนี ภรรยาและลูกสาวของคุณชิต สิงหเสนี - ตอนที่ 1 : ถูกจับ

by สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล (Notes) on Friday, February 17, 2012 at 5:11am





คำชี้แจง :  บทสัมภาษณ์ คุณชูเชื้อ และ คุณผ่องพรรณ สิงหเสนี (หรือที่ปรากฏในบทสัมภาษณ์ในชื่อเล่นว่า "ยายหนู" และ "หมอด") ภรรยาและลูกสาวของคุณชิต สิงหเสนี นี้ ตีพิมพ์อยู่ใน หนังสืองานศพนางชูเชื้อ (วลี) สิงหเสนี (2549) ผู้สัมภาษณ์คือคุณสมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ (ปรากฏในบทสัมภาษณ์ในชื่อเล่น "อิ๋ง") หรือ "อิ๋ง เค (Ink K)" ผู้เขียนบทและกำกับภาพยนตร์ (คนกราบหมาพลเมืองจูหลิน) และศิลปินนักวาดภาพ ผู้เป็นญาติกับครอบครัวคุณชิต ในการสัมภาษณ์และในบทสัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์จะใช้ชื่อเล่นของทั้งสามท่าน ("ยายหนู", "หมอด", "อิ๋ง") โดยตลอด ผมถ่ายทอดมาตามต้นฉบับ

การสัมภาษณ์ทำขึ้นในปี 2544 หรือราว 5 ปีก่อนการถึงแก่กรรมของคุณชูเชื้อ (22 สิงหาคม 2456 - 2 มกราคม 2549)


ยายหนู :   อิฉันชื่อ ชูเชื้อ สิงหเสนี

หมอด :   ดิฉันชื่อ ผ่องพรรณ สิงหเสนี

อิ๋ง :   อิ๋งรู้จักกับยายหนูมาตลอดชีวิต ใช่มั้ยคะ

ยายหนู :   ตั้งแต่คุณอิ๋งยังไม่เกิดน่ะค่ะ

อิ๋ง :   ขอถามกันตรงๆเลยนะคะ คือ อิ๋งบางที คิดว่ายายหนู คุณหมอด และทุกๆคน โดยเฉพาะยายหนู ทนได้ยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ยายหนู :   ก็อยู่นี่น่ะ ก็เพื่อลูกน่ะค่ะ สงสารลูก [น้ำตาซึม] ไม่มีพ่อแล้วก็ลำบากใช่ไหมคะ

อิ๋ง :   ก็เลยอยู่มาเพื่อลูก

ยายหนู :  ค่ะ

อิ๋ง :   วันแรกที่เรื่องเกิดขึ้น ยายหนูจำได้ไหมคะ เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ

ยายหนู :   เขาก็มาเอาตัว จับคุณชิตไป ไปไว้ที่กระทรวงกลาโหม ยายหนูก็ไปเยี่ยมเขา เขาก็บอกว่าไม่มีอะไร

อิ๋ง :  ใครบอกว่าไม่มีอะไร

ยายหนู :   คุณชิตบอกว่าไม่มีอะไร ยายหนูถามว่าเป็นไงมั่ง คุณชิตก็บอกว่า ไม่มีอะไร

อิ๋ง :  ไม่ได้เล่าว่าเรื่องอะไร

ยายหนู :  ไม่ได้เล่าค่ะ เล่าไม่ได้

อิ๋ง :  จับไปกลาโหมหรือคะ ตอนแรก

ยายหนู :  ค่ะ ตอนแรก

อิ๋ง :  ตอนแรกที่เกิดเรื่องขึ้น

ยายหนู :  เรื่องเกิดขึ้นไปแล้วน่ะค่ะ

หมอด :  ปีกว่าล่ะมัง หลังจากที่เสด็จสวรรคตน่ะค่ะ อยู่ตั้งปี 2490 ล่ะมังถึงได้ถูกจับ

อิ๋ง :  แล้วยังไงถึงได้จู่ๆมาจับ

ยายหนู :  เขาบอกว่า อะไรนะ คุณชิตเป็นมหาดเล็กอยู่ห้องบรรทม ต้องรู้เห็น

อิ๋ง :  คุณชิตเคยเล่าให้ฟังบ้างไหมคะ ว่าวันนั้นเป็นอย่างไร

ยายหนู :  เล่าแต่ว่า ออกมาข้างนอกน่ะค่ะ เจ้าคุณอนุรักษ์ฯ (พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร) ให้ไปทำหีบเหรียญตรา ที่จะเสด็จฯเมืองนอก หีบจะใส่เหรียญตราน่ะค่ะ จะเอาไปเมืองนอกด้วย คุณบุศย์บอกว่ายังไม่บรรทมตื่น ก็คอยอยู่ จนได้ยินเสียงปืน ฟังว่าเสียงมาจากทางไหน จนแน่ใจว่าเสียงมาจากห้องบรรทม ก็วิ่งเข้าไป พอเห็นเลือด ก็วิ่งไปทูลพระราชชนนี

อิ๋ง :  คุณชิตบอกหรือเปล่าว่า เห็นใครมาหรือเปล่า

ยายหนู :  ไม่เห็นค่ะ เขาบอกว่าถ้าเขาเห็น เขาก็ฆ่ามันตายแล้ว

อิ๋ง :  นั่นน่ะสิคะ สำหรับอิ๋ง ที่น่าสะเทือนใจที่สุด ก็ตรงที่ว่า เราก็ทราบ อย่างยายหนู นี่นะคะ หรือถึงอิ๋งไม่เคยเจอคุณชิต ยังเกิดไม่ทัน คนที่จงรักภักดีมากขนาดที่ว่า ถ้าเห็นใครทำร้ายท่าน ก็จะฆ่าตายยังงี้ มาโดนกล่าวหาอย่างนี้ ตอนนั้นคุณชิตรู้สึกยังไง เคยเล่าให้ฟังบ้างไหมคะ

ยายหนู :  ไม่เล่าหรอกค่ะ

อิ๋ง :  แกไม่พูดเลยหรือคะ

ยายหนู :  ไม่พูดหรอกค่ะ

หมอด :  ก็มันตั้งนาน ถึงได้มากล่าวหา มีคดีเรื่องขึ้นมาฟ้องร้อง ตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ ทางการเขาก็คิดว่า เป็นอุบัติเหตุ ก็ไม่มีอะไร มาภายหลัง ถึงได้มามีเรื่องมีราว ไม่ทราบว่าจะเป็น.... มีการกล่าวหากัน และก็หาว่าพ่อมีส่วนสมรู้ร่วมคิดด้วย ถึงได้มาจับพ่อ หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นปีหนึ่งแล้ว

ยายหนู :  แล้วจับไปโรงพักด้วยค่ะ จับยายหนู

อิ๋ง :  จับยายหนูด้วยหรือคะ ทำไมล่ะ

ยายหนู :  กับ "ใหม่" [หมายถึง ลักษณา สิงหเสนี ลูกคนสุดท้องของคุณชิต กับคุณชูเชื้อ - สมศักดิ์] ใหม่ยังกินนมอยู่

อิ๋ง :  โถ ใหม่นี่คนที่เท่าไหร่นะคะ

ยายหนู :  คนที่เจ็ดค่ะ

อิ๋ง :  แล้วยายหนูไปด้วยหรือคะ

ยายหนู :  เปล่าค่ะ  เขาจับคุณชิตไปแล้ว แล้วเขามาจับยายหนู กับใหม่ ไปโรงพัก

อิ๋ง :  โรงพักไหนคะ

ยายหนู :  โรงพักไหน ยายหนูก็จำไม่ได้

อิ๋ง :  แล้วเขาทำยังไง

ยายหนู :  เขาถามว่า คุณชิตเห็นใครไหม อะไรยังงี้น่ะค่ะ

อิ๋ง :  แล้วเห็นไหมคะ

ยายหนู :  ก็บอกว่า ไม่เห็น ถ้าเห็นล่ะแกฆ่าตายหมด

อิ๋ง :  แล้วยังไง แล้วจับยายหนูขังด้วยหรือคะ

ยายหนู :  ไม่ขังหรอกค่ะ จับอยู่ตั้งแต่เช้าจนเย็น ถึงได้ปล่อย

อิ๋ง :  ก็ลำบาก.... แล้วลูกคนอื่นตอนนั้นอยู่ไหนคะ

ยายหนู :  ก็ลำบาก ฝากคุณย่า

อิ๋ง :  ตอนนั้น คุณชิตโดนขังแล้วหรือคะ

ยายหนู :  จับขังแล้ว

อิ๋ง :  พอจับก็ขังเลยหรือคะ

ยายหนู :  ก็ไปไว้ที่กระทรวงกลาโหม ก็ขังอยู่ในห้องน่ะค่ะ แล้วเราก็ไปเยี่ยม

อิ๋ง :  ยายหนูรู้เมื่อไหร่คะ ว่าเป็นข้อหาอะไร เรื่องอะไร

ยายหนู :  ทราบตอน เมื่อเขามีเรื่องมีราวแล้วน่ะค่ะ เขาจับไปฝากขังศาล

อิ๋ง :  ตอนแรก ไม่รู้เลยหรือคะว่า ถูกจับไปทำไม

ยายหนู :  ไม่รู้หรอกค่ะ

อิ๋ง :  เพราะแกไม่ได้บอก

ยายหนู :  ก็เขาไม่ได้บอกนี่คะ

อิ๋ง :  คุณชิตไม่บอก หรือว่า....

ยายหนู :  คุณชิตไม่รู้เรื่องว่า เขาจะมาจับ.... มีแต่พวกตำรวจแหละค่ะมาหา ที่บอกให้หนีเถิด เดี๋ยวเขาจะมาจับนะ แกบอกว่าหนีทำไม ไม่หนีหรอก

อิ๋ง :  มีทหาร กับตำรวจมาบอกให้ไปหรือคะ

ยายหนู :  บอกให้หนีไปเถิด เดี๋ยวเขาจะมาจับ "จับอะไร หนีทำไม ฉันไม่หนีหรอก"

อิ๋ง :  พอยายหนูทราบว่าเป็นเรื่องอะไรแล้ว ยายหนูเป็นยังไง รู้ว่าเป็นข้อหาอะไร

ยายหนู :  ก็ใจไม่ดี ก็ถามเขาว่า เขาไปจับปืนเปินอะไรหรือเปล่า เขาบอก เขาไม่ได้จับนี่ จะต้องไปกลัวอะไร มันตกอยู่แล้วเขาก็กลัวพระชนนีจะคว้า เขาก็เลยเอาผ้า [ห่อ] เอาไปใส่ในลิ้นชักไว้

อิ๋ง :  แล้วคุณหมอดล่ะคะ คุณหมอดคนโตนี่ ใช่ไหมคะ

หมอด :  คนที่สองค่ะ

อิ๋ง :  ตอนนั้นอายุเท่าไหร่

หมอด :  ตอนนั้น สักเจ็ด แปดขวบ.... หรือกว่า จำไม่ได้แล้ว [น่าจะอายุมากกว่า 7-8 ขวบหลายปี เพราะเรียนเตรียมอุดมแล้ว - สมศักดิ์]

ยายหนู :  เข้าจุฬาฯ หรือยัง

หมอด :  ยัง ตอนพ่อตายอยู่โรงเรียนเตรียมฯ


.............................



อ่านบทสัมภษณ์ ตอนที่ 2 :  วันประหารชีวิต ได้ ที่นี่